กระทบหนัก - ขาดทุนต่อเนื่อง : ชมรมรถโดยสารโคราช วอนรัฐบาลปรับค่าโดยสาร หลังรัฐเลิกอุ้มดีเซล 1 พ.ค.นี้

0

 

#แบกไม่ไหว! ชมรมรถโดยสารโคราชจี้รัฐบาล อุ้มดีเซล-ปรับค่าโดยสาร

ระบุอาจลดเที่ยววิ่งเหลือไป 1 กลับ 1 เพื่ออยู่รอด


วันที่ 29 เมษายน 2565 เวลา 14.00 น. นายสุวิช วงศ์เบญจรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นครชัยทัวร์ จำกัด และประธานกรรมการ บริษัท นครชัย 21 จำกัด ในฐานะรองประธานชมรมรถโดยสารโคราช ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะรายใหญ่ในภาคอีสาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีรถโดยสารวิ่งให้บริการจำนวน 120 คัน โดยเป็นรถโดยสารหมวด 2 วิ่งระหว่างกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมาและหมวด 3 วิ่งระหว่างจังหวัด ต้องทำความเข้าใจ กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้ควบคุมค่าโดยสารและโดยกำหนดอัตรา 53 สตางค์ต่อลิตร รูปแบบเป็นขั้นบันได ค่าโดยสารที่ใช้ในปัจจุบันเป็นอัตราเมื่อเดือนเมษายน 2562 ดีเซลราคาลิตรละ 27 บาท ขณะนี้ดีเซลลิตรละ 30 บาท ซึ่งเป็นต้นทุนที่แบกรับร่วม 3 ปี และการพิจารณาขึ้นราคาค่าโดยสารแต่ละครั้งกรมการขนส่งทางบกและกระทรวงคมนาคมต้องเห็นชอบและใช้พิจารณาหลายเดือน


ทั้งนี้ถ้าลำดับเหตุการณ์ก่อนเกิดวิกฤตโควิด ยังมีเที่ยววิ่งปกติ แต่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเกิน 35 บาทต่อลิตร ผู้ประกอบการได้ลดเที่ยววิ่ง เพื่อรวมผู้โดยสารต่อคันให้มากที่สุด สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง เมื่อเจอโควิดการเดินรถไม่เหมือนเดิม วิถีชีวิตเปลี่ยน รถโดยสารกลายเป็นจำเลยของสังคมและสาธารณสุข เช่น อย่าเดินทางข้ามจังหวัด งดการใช้รถโดยสารสาธารณะ สนับสนุนให้ใช้รถส่วนบุคคลทำให้ประชาชนไม่กล้าใช้บริการ ทั้งๆที่ไม่เคยเกิดคลัสเตอร์จากการใช้รถโดยสารแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ประกอบการได้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ธุรกิจรถโดยสารต้องใช้คนไม่สามารถทนแทนด้วยเครื่องจักรเหมือนโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อน้ำมันที่เป็นต้นทุนสำคัญปรับขึ้น รัฐบาลต้องช่วยพยุงราคาน้ำมันเฉพาะกลุ่มและสนับสนุนส่งเสริมให้ใช้รถโดยสารมากขึ้น


ซึ่งปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจรถโดยสารไม่สามารถพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพตามที่ต้องการ ใครสายป่านยาวก็สามารถเลี้ยวตัวประคับประคองได้ ผู้ประกอบการหลายราย เงินสดหมดกระเป๋าก็ต้องหยุดกิจการ บริษัทยิ่งใหญ่ก็ต้องเจ็บตัวเยอะ เพราะต้องดูแลพนักงานแฝงหลังบ้านเช่นช่างซ่อม พนักงานคอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น ที่ผ่านมา เราพยายามปรับตัวมาตลอด เดิมมีพนักงานรวมกว่า 600 คน เลิกจ้างเกือบครึ่งเหลือไม่ถึง 300 คน เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าแรงเดือนละ 7-8 ล้านบาท ให้เหลือประมาณ 4 ล้านบาทต่อเดือน เราคาดหวังสถานการณ์จะคลี่คลายขึ้นแต่ไม่ใช่อย่าที่คิดต้องมาแบกรับภาระดีเซลขึ้นราคาและยังมีอะไหล่ น้ำมันหล่อลื่นทยอยปรับขึ้นอีกเป็นผลกระทบลูกโซ่เรื่อยๆ


นายสุวิช กล่าวว่า ปัจจุบันไม่เคยมีการทบทวนสัดส่วนรถใช้ก๊าซกับน้ำมัน ตอนที่ราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 35-40 บาท คนก็แห่ไปติดก๊าซเยอะ ต่อมาราคาน้ำมันปรับตัวลง และรัฐบาลไม่อุ้มก๊าซทำให้ใช้ไม่คุ้มรวมทั้งราคาก๊าซขยับขึ้น ก็มีรถส่วนหนึ่งกลับมาใช้น้ำมันแทน ขณะนี้สงครามรัสเซีย ยูเครน อนาคตจะเป็นเช่นไรไม่สามารถประเมินได้ ยิ่งรบกันนานราคาน้ำมันก็ไม่ลดและจะกลับไปปรับปรุงเป็นรถก๊าซอีกก็มีค่าใช้จ่ายเยอะ เสมือนเจ็บตัวไม่จบ ทุกคนก็ลักลั่น ตนก็มีรถใช้ก๊าซก็ใช้วิ่งแทนรถน้ำมันเพื่อลดค่าใช้จ่าย มิเช่นนั้นผู้ประกอบการก็ไม่มีทางออก เพื่อความอยู่รอดอาจลดเที่ยววิ่งเหลือไป 1 กลับ 1 เที่ยว ตามเงื่อนไขของกรมการขนส่งทางบก

-----------------------------------------------

เครดิต : สยามรัฐ

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)